ยุงกัดอาจไม่ได้เสี่ยงเเค่ไข้เลือดออก!
ยุงเป็นแมลงขนาดเล็ก มีวงจรชีวิตที่ไม่นานแต่มีมากกว่าสามพันชนิดและยังสามารถวางไข่ได้มากถึง 50-150 ฟองต่อครั้งตลอดชีวิตของมัน จึงไม่แปลกที่เราจะพบเจอยุงได้อยู่เกือบทุกเวลาและพบเจอได้แทบจะทุกสถานที่ ซึ่งยุงถือเป็นพาหะนำโรคร้ายมาสู่คนได้หลายชนิดจากการถูกกัดเพียงแค่ 1 ครั้ง ยกตัวอย่างเช่น
► โรคติดเชื้อไวรัสเดงกี หรือไข้เลือดออก (Dengue Hemorrhagic Fever-DHF)
เป็นโรคจากยุงที่ทุกคนรู้จักกันดีและมีความอันตรายถึงชีวิตโดยมีพาหะเป็นยุงลาย ที่ออกหากินในตอนกลางวัน (อาจจะพบได้ในช่วงเย็นหรือตอนกลางคืน) ซึ่งยุงลายยังสามารถเป็นพาหะของโรค ไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ ชิคุนกุนย่า และ ไข้ไวรัสซิกา ได้อีกด้วย ซึ่งจะมีอาการคล้ายกับไข้เลือดออก
► โรคไข้มาลาเรีย (Malaria)
สาเหตุมาจากยุงก้นปล่อง พบมากในพื้นที่ป่า พื้นที่รก ตามแหล่งน้ำ หรือพื้นที่ที่ร้อนชื้น
► ไข้สมองอักเสบ เจ อี
พบมากในนาข้าวโดนมียุงรำคาญเป็นพาหะนำโรค โดยเป็นการถ่ายทอดกันอยู่ในระหว่างสัตว์ เมื่อถูกยุงรำคาญกัด เชื้อที่อยู่ในเลือดของสัตว์จะเจริญแพร่พันธุ์ในตัวยุง เมื่อยุงกัดผู้ใดก็จะแพร่เชื้อเข้าสู่ผู้ที่ถูกกัด โดยมีหมูเป็นรังเพาะเชื้อโรค
วิธีการป้องกันโรคที่เกิดจากยุงง่ายๆที่สามารถทำเองได้ ที่ควรปฎิบัติถ้าไม่อยากป่วยจากยุง
1. สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายให้มิดชิด
2. นอนกางมุ้ง โดยเฉพาะเวลาค้างแรมในป่า
3. ทาหรือจุดยากันยุงป้องกัน
4. ควรสังเกตและคอยทำลายจุดน้ำขังภายในบริเวณบ้าน เพื่อไม่ให้ยุงมีที่ในการเพาะพันธุ์
5. ฉีดวัคซีนป้องกันโรค โรคไข้เลือดออก ไข้เหลือง ไข้สมองอักเสบเจอี เป็นต้น
ถึงแม้จะป้องกันแล้วแต่เรายังคงมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายจากยุงอยู่ดี การมีประกันที่ดูแลความเสี่ยงให้เราได้ก็เป็นอีกหนึ่งทางที่ดีที่จะครอบคลุมความเสี่ยงให้รอบด้านมากยิ่งขึ้น เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราจะป่วยเป็นโรคจากยุงตอนไหน
ประกันยุง เบี้ยเริ่ม 100บาท/ปี คลิก
ที่มา : โรงพยาบาลกรุงเทพ,โรงพยาบาลพญาไท 2, โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
02/11/2566